loader

Andreas Kisser แห่ง Sepultura กับเรื่องจริงที่ไม่ค่อยมีใครรู้!!!

แวะมาฟังเรื่องที่ไม่ค่อยมีคนทราบกันบ้างดีกว่า!!! ในระหว่างที่กำลังให้สัมภาษณ์กับทางสื่ออย่าง Alive & Streaming อย่างออกรสชาติอยู่นั้นทางคุณพี่ Andreas Kisser มือกีตาร์แกนหลักคนสำคัญของ Sepultura ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงช่วงเวลาที่เขาได้รับโอกาสเดินทางไปออดิชั่นกับทางวง Metallica นัยว่าเพื่อเป็นการทำหน้าที่แทนเฮีย James Hetfield ฟรอนท์แมนของวงในช่วงระยะเวลาสั้นๆ  

หากคุณเองยังพอจำได้กับเหตุการณ์ที่ทางเฮีย James Hetfield นั้นได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นในระหว่างการแสดงคอนเสิร์ตบนเวทีในช่วงต้นยุค’90 ซึ่งในขณะนั้นทางวงกำลังเดินสายออกทัวร์คอนเสิร์ตร่วมกับวง Guns N’ Roses ในช่วงปี 1992 โดยทางเฮีย James นั้นได้เกิดอุบัติเหตุถูกไฟลวกในระหว่างที่ทางวงกำลังเล่นเพลง Fade To Black อยู่บนเวทีนั่นเอง  

และจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นมันก็ได้ส่งผลให้ร่างกายทางด้านซีกซ้ายถูกไฟลวกอยู่หลายส่วนด้วยกันทั้งบริเวณมือ, แขน, คิ้วตลอดจนใบหน้าและผม อย่างไรก็ดีแม้ว่าเขาจะต้องเจ็บปวดกับการโดนไฟเผาอยู่ในราว 2-3 วินาทีด้วยกันก็ตาม แต่หลังจากใช้เวลาพักไปเพียง 17 วันเจ้าตัวก็สามารถคัมแบ๊คกลับมาขึ้นเวทีอีกครั้งจนได้  

และจากการให้สัมภาษณ์กับทาง Alive & Streaming ทางคุณพี่ Andreas Kisser มือกีตาร์ตัวกลั่นของวง Sepultura ก็ได้เผยถึงเรื่องราวการเดินทางไปออดิชั่นเพื่อการแทนที่เฮีย James Hetfield ที่จำต้องพักฟื้นสภาพร่างกายให้เราได้ฟังกัน โดยการพูดคุยในช่วงแรกๆนั้นทางคุณพี่ Kisser ก็ได้เปิดใจว่าส่วนตัวแล้วเขาเองนั้นชื่นชอบดนตรีของ Metallica เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งตัวของเขาและเฮีย Phil Rind แกนหลักอีกคนของวง Sacred Reich เองก็มักที่จะออกมากล่าวในทำนองปกป้องทางวงอยู่บ่อยครั้งหากว่ามีใครบางคนที่ชอบออกมาตำหนิติเตียนการแสดงของทางวง และนี่ก็เป็นบางช่วงที่เขาได้กล่าวเปิดใจให้เราได้ฟังกัน...

“จะบอกว่ามันเป็นความรู้สึกพิเศษที่เกิดขึ้นก็ได้นะเพื่อน อย่างไอ้เจ้า Phil Rind แกนหลักอีกคนของ Sacred Reich เองมันก็เป็นเพื่อนสนิทของเจ้า Jason Newsted อยู่แล้ว ซึ่งทั้งตัวผมและไอ้ Phil Rind ก็ยังเป็นเพื่อนซี้กันอีกด้วย ทั้งนี้ก็เป็นเพราะครั้งหนึ่งทางวง Sacred Reich และ Sepultura ก็ได้เคยออกทัวร์คอนเสิร์ตในช่วงที่วงของเราออกเดินสายโปรโมตอัลบั้ม Arise นั่นเอง และพวกเราทั้งสองก็ชื่นชอบ Metallica เหมือนๆกันอีกด้วยว่ะ”

“อย่างที่บอกไปว่าทั้งผมและไอ้ Phil เองต่างก็ชื่นชอบวง Metallica ด้วยกันทั้งคู่ และผมเองก็จำได้ดีว่าพวกเรานั้นมักที่จะออกมาปกป้องผลงาน Black Album ร่วมกัน ซึ่งมันก็มีแฟนเพลงบางขาแธรชบางรายมักจะออกมากระแนะกระแหนในทำนองที่ว่า  ‘โอ้! วง Metallica แม่งโซลด์เอาท์อีกแล้วหรือว่ะ’ หรืออะไรประมาณนี้แหละครับ ซึ่งทั้งผมและเจ้า Phil ก็มักจะออกมาปกป้องพวกเขากันในทันที”  

นอกจากนี้แล้วทางคุณพี่ Andreas ก็ยังได้ย้อนประสบการณ์ที่เจ้าตัวไม่เคยลืมมันมาก่อนกับการได้โอกาสเดินทางไปออดิชั่นร่วมกับทางวง โดยเขาได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า... 

“ไอ้เจ้า Phil Rind มันรู้ดีว่าผมเองนั้นสามารถเล่นเพลงของ Metallica ได้อยู่พอสมควร แต่กับการเล่นร่วมกับทางวง Metallica นี่บอกตามตรงเลยว่าแม่งโคตรกดดันเลยว่ะ จะบอกว่ามันมีความแตกต่างกันก็ไม่ผิดไปนักหรอกเพื่อนเอ๋ย” 

“จำได้ว่าตอนนั้นเจ้า Jason Newsted มันโทรมาหาผมพร้อมกล่าวขึ้นว่า ‘เฮ้ย! เพื่อนตอนนี้พวกเราอยู่ที่เดนเวอร์ รัฐโคโลราโด้นะโว้ย ตอนนี้พวกเรากำลังก่อสร้างเวทีคอนเสิร์ตกันอยู่ และพวกเราก็กำลังทำการออดิชั่นอยู่ด้วย ไม่ว่าคนๆนั้นจะเคยเล่นเพลงของ Metallica ในแบบวงคัฟเวอร์หรือแม้แต่เพื่อนของพวกเราเองก็สามารถเข้ามาทดสอบได้ บอกตามตรงเลยนะครับตอนนั้นผมเองคิดไปในทันทีว่าอย่างนี้มันก็วิเศษสุดๆไปเลยสิวะ”  

“อย่างที่เห็นกันว่าวง Metallica นั้นมันวงที่ยิ่งใหญ่โดยแท้ เรียกได้ว่าพวกเขายิ่งใหญ่ในทุกมองทั้งในแง่ของการให้ความเคารพรวมไปถึงในเรื่องของทัศนคติส่วนตัว เรียกได้ว่าพวกเขานั้นสามารถทำทุกอย่างให้มันสามารถเกิดขึ้นจริงได้ ขณะที่ผมเองนั้นก็เป็นเพียงแค่มือกีตาร์คนหนึ่งที่เดินทางมาจากบราซิลก็เท่านั้น จำได้ว่าในตอนนั้นผมเองรีบบึ่งขึ้นเครื่องบินพร้อมกับหนีบเอากีตาร์ Charvel คู่ใจมาด้วย ครั้นพอผมเดินทางมาถึงที่โคโลราโด้มันก็มีรถลีมูซีนพร้อมติดชื่อผมหรารอคอยอยู่แล้ว หลังจากนั้นผมก็เดินทางมุ่งตรงไปสู่สนามกีฬาเพื่อทำการฝึกซ้อมในทันที” 

ทางคุณพี่ Andreas ยังกล่าวต่อไปอีกว่า “และคนแรกที่ผมได้พบปะเลยก็คือเฮีย Kirk Hammett นั่นเอง ซึ่งเขาก็ได้ทักทายผมด้วยถ้อยคำที่ว่า “เฮ้! เพื่อนเอ็งมาจากบราซิลใช่ไหม เอ็งโอเคไหมล่ะเพื่อน?” หลังจากนั้นผมเองก็ได้มีโอกาสชมการเล่นดนตรีของผู้ที่เดินทางมาออดิชั่นในวันนั้นอยู่บ้าง ก่อนที่ผมจะขึ้นโชว์เป็นคนถัดไป ซึ่งผมเองรู้สึกได้ว่าตนเองนั้นเล่นมันได้อย่างไม่มีติดขัดอะไรเลย”  

“จะบอกว่ามันดูแปลกประหลาดอยู่บ้างก็พอจะได้นะครับ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะพวกเขาปล่อยให้ผมเล่นมันออกมาราวกับว่าผมกำลังรู้สึกว่าตนเองนั่งชิลล์ๆอยู่บ้านอะไรทำนองนั้นเลย และผมก็ได้เล่นเพลงอย่าง Enter Sandman ที่ผมเองมองว่ามันเป็นอีกเพลงที่ผลลัพธ์มันออกมาอย่างสมบูรณ์แบบซะจริงๆ ถึงขนาดที่ลูกทีมของพวกเขาถึงกับเอ่ยปากว่า ‘ว้าว! นี่ขนาดพวกเรานั่งฟังกันอยู่ด้านนอก พวกเรายังรู้สึกเหมือนกับว่าทางวงกำลังเล่นซ้อมมันอย่างเอาจริงเอาจังกันเลยทีเดียว” 

“หลังจากนั้นผมเองก็ยังคงพักอยู่ที่นั่นจนกระทั่งถึงวันตัดสินใจ โดยในเวลานั้นเหลือเพียงผมกับได้เจ้าหนุ่มที่ชื่อ John Marshall เพียง 2 รายเท่านั้น ซึ่งบอกตรงๆในตอนนั้นผมเองรู้สึกเหมือนกับว่าตนเองคงได้รับชัยชนะเป็นแน่แท้ แต่ในที่สุดแล้วผมก็พลาดมันจนได้ ทั้งนี้มันก็อาจเป็นเพราะว่าเพลงใน Black Album มันยังคงใหม่กับผมด้วยก็เป็นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเพลง The Unforgiven ที่มีรายละเอียดซับซ้อนและผมเองก็ไม่สามารถเค้นฟอร์มในส่วนนี้ให้ออกมาได้ดี ขณะที่เจ้า John Marshall มันมีความพร้อมมากกว่าอีกทั้งเขายังเป็นคนอเมริกัน และที่สำคัญพวกเขานั้นก็เป็นเพื่อนกันมาก่อนอีกด้วย”  

“ครั้นภายหลังเสร็จจากการออดิชั่นตรงนั้นแล้วพวกเขาก็ได้มีการปาร์ตี้กันนิดหน่อย จะว่ามันแล้วมันก็เป็นเปรียบได้กับเป็นประสบการณ์เฉียดที่ผมเกือบที่จะได้ออกทัวร์ทัวร์คอนเสิร์ตร่วมกับพวกเขาและวง Guns N’ Roses โดยที่มีวงดังอย่าง Faith No More ทำหน้าที่เป็นวงเปิดอยู่แล้วเชียว แน่ละว่ามันเป็นทัวร์คอนเสิร์ตที่น่าอัศจรรย์โดยแท้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันก็ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตอันยอดเยี่ยมสำหรับผมนะพวก และจนถึงทุกวันนี้ผมเองก็ยังคงเป็นเพื่อนสนิทกับพวกเขา เรียกได้ว่ามันวิเศษสุดไปเลยว่ะ” คุณพี่ Andreas กล่าวทิ้งท้าย  


Cr: metalheadzone.com

About Author

Jirapat Saelim

บรรณาธิการนิตยสาร Noize Magazine, Former กองบรรณาธิการ,ช่างภาพนิตยสารบันเทิงคดี