loader

Geezer Butler หมดเปลือกเบื้องลึกอัลบั้ม Paranoid ของ Black Sabbath

คุยกับคุณน้า Geezer Butler กันบ้าง!!! ล่าสุดทางคุณน้า Geezer Butler มือเบสและแกนหลักคนเขียนเนื้อเพลงตัวกลั่นของวง Black Sabbath ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงเบื้องลึกที่เกี่ยวกับผลงานอัลบั้มระดับตำนานของวงอย่าง Paranoid ให้ได้ฟังกันพร้อมกันนี้เจ้าตัวก็ยังเผยว่าทางวงนั้นไม่เคยคาดหวังว่ามันจะประสบความสำเร็จภายหลังจากที่ออกวางจำหน่ายเลยแม้แต่น้อย ขณะเดียวกันเขาเองก็ยังได้เผยถึงแผนการในอนาคตของตนให้ได้ทราบกันอีกด้วย

อย่างที่ทราบกันดีว่าอัลบั้ม Paranoid นั้นถือเป็นผลงานลำดับที่ 2 ของวง Black Sabbath ที่ออกวางจำหน่ายในช่วงเดือนกันยายน ค.ศ.1970 โดยมีเพลงที่เปรียบกับเป็นสัญลักษณ์ของทางวงอย่าง Iron Man, War Pigs รวมไปถึงเพลงไตเติ้ลแทร็คซึ่งล้วนแล้วแต่ได้รับความนิยมกันทั้งสิ้น โดยทุกเพลงในอัลบั้มสมาชิกทั้ง 4 อันประกอบไปด้วยคุณลุง Tony Iommi มือกีตาร์, คุณน้า Geezer Butler มือเบสกีตาร์, คุณลุง Bill Ward มือกลองและป๋า Ozzy Osbourne นักร้องนำล้วนแต่มีส่วนร่วมแต่งด้วยกันทั้งสิ้น นอกจากนี้แล้วอัลบั้มดังกล่าวยังได้กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการพัฒนารูปแบบของดนตรีเฮฟวี่ เมทัลที่คนในแวดวงการเพลงล้วนแต่เห็นพ้องด้วยกันทั้งสิ้น

และจากการให้สัมภาษณ์พูดคุยกับทางสื่ออย่าง The Wolf Of Sound ทางคุณน้า Geezer ก็ได้เผยถึงเบื้องลึกเกี่ยวกับผลงานอัลบั้ม Paranoid ชุดนี้ อีกทั้งยังได้กล่าวย้อนความหลังความโด่งดังที่เกี่ยวข้องกับบทเพลงดังทั้งParanoid, Iron Man รวมไปถึงเพลงระดับตำนานอย่าง War Pigs อีกด้วย ขณะเดียวกันทางคุณน้าก็ได้ออกมายอมรับว่าความสำเร็จจากผลงานอัลบั้มนี้นั้นพวกเขาเองไม่เคยคาดหวังมาก่อนเลย อีกทั้งยังรู้สึกได้ว่าแฟนเพลงน่าจะหลงลืมมันไปในช่วงเวลาไม่กี่ปีเป็นแน่แท้ และนี่ก็เป็นบางช่วงที่คุณน้าได้กล่าวให้พวกเราได้ฟังกัน...

“พูดได้ว่ามันเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมนะพวกกับการที่ยังคงสามารถยืนหยัดเป็นที่จดจำมาเป็นเวลากว่า 50 ปีภายหลังจากที่พวกเราได้ทำงานไปเพียง 2 อัลบั้มเช่นนี้ โดยสัตย์จริงเลยนะครับพวกเรามองกันว่ามันคงน่าจะถูกลืมเลือนไปในเพียงช่วงเวลาไม่กี่ปีเท่านั้นแหละ แต่ผ่านมากว่า 50 ปีแล้วประกอบกับรูปแบบของดนตรีแนวต่างๆที่ได้รับความนิยมก็พากันก้าวผ่านพ้นไปอย่างมากมาย แต่คุณลองดูสิครับแม้บางคนจะมองว่าวงดังอย่าง The Beatles น่าจะถูกหลงลืมกันไปภายหลังจากที่พวกเขาแยกทางกันแล้ว แต่มันก็ไม่มีใครคาดคิดว่าแท้จริงแล้วผลกระทบจากการหวนคิดถึงมันรุนแรงขนาดไหนกันแน่”

“กล่าวได้อย่างเต็มปากเลยว่าในทุกๆเจเนอเรชั่นแม้พวกเขาจะมีอายุมากขึ้นเท่าใดก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังคงชื่นชอบในสิ่งที่ตนเองปลื้มปริ่มในวัยหนุ่มสาวอยู่เสมอนั่นแหละ และดนตรีก็ถือเป็นอีกหนึ่งหนทางที่ทำให้พวกเขาสามารถหวนกลับคิดถึงวัยหนุ่มสาวด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นมันจึงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ายังคงมีดนตรีบางแขนงจากช่วงยุค’60-‘70 ที่ยังคงทรงพลังอย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งสไตล์ดนตรีอันหลากหลายเหล่านั้นก็ยังคงความสำคัญมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ดังนั้นแล้วจึงพูดได้ว่าในแต่ละเจเนอเรชั่นมันก็ยังคงมีความต้องการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของดนตรีหลงเหลืออยู่นะเพื่อน”

“อย่างผลงานของพวกเราเองแม้จะไม่เหลือร่องรอยให้ได้เห็นกันว่ามีอิทธิพลต่อแนวเพลงสมัยใหม่กันแล้วก็ตาม แต่ครั้นพอถึงช่วงกลางยุค’80 กลับปรากฏว่าบรรดานักดนตรีทั้งหลายต่างก็อ้างเอ่ยว่าพวกเรานั้นถือเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้กับพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเมื่อผลงาน  2 อัลบั้มแรกของพวกเราได้ออกวางจำหน่าย แม้บรรดานักวิจารณ์จะพากันเกลียดชังและไม่ยอมรับมันก็ตาม แต่ครั้งพอพวกเราประสบความสำเร็จขึ้นมาโดยที่ไม่ได้มีเรื่องราวของการโฆษณาชวนเชื่อรวมไปถึงการโหมโปรโมตเกินจริงจากสื่อต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้อง มันก็ดูเหมือนว่าพวกเขาเหล่านั้นยังพากันออกมากล่าวโจมตีทั้งนี้มันก็อาจเป็นเพราะว่าพวกเราพีคขึ้นมาได้โดยปราศจากการเห็นพ้องของพวกเขานั่นเอง” คุณน้า Butler กล่าวสรุปส่งท้าย

อนึ่ง ในส่วนแผนการในอนาคตของคุณน้านั้น เขาเองได้ออกมาเผยแล้วว่าช่วงนี้ตนเองก็กำลังเดินหน้าเขียนหนังสือพร้อมใช้ชีวิตที่ตั้งใจเตรียมจะรีไทร์ตนเอง โดยที่ขณะนี้นั้นไม่ได้มีส่วนของงานเพลงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเลย

Cr: metalheadzone.com

About Author

Jirapat Saelim

บรรณาธิการนิตยสาร Noize Magazine, Former กองบรรณาธิการ,ช่างภาพนิตยสารบันเทิงคดี